โรคเส้นประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis - MS): สาเหตุ อาการ และการจัดการโรค

Last updated: 16 ก.ย. 2567  |  139 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Multiple Sclerosis

โรคเส้นประสาทเสื่อม หรือ Multiple Sclerosis (MS) เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทกลาง (Central Nervous System - CNS) ซึ่งรวมถึงสมองและไขสันหลัง MS เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยโจมตีเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทที่เรียกว่าไมอีลิน (Myelin) ส่งผลให้การส่งสัญญาณประสาทช้าลงหรือถูกขัดขวางอย่างสิ้นเชิง บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุ อาการ วิธีการวินิจฉัย และการจัดการโรคนี้ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจในโรคนี้มากขึ้น

โรคเส้นประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) คืออะไร?

Multiple Sclerosis (MS) เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเยื่อหุ้มไมอีลิน ซึ่งเป็นสารไขมันที่หุ้มเส้นประสาทภายในสมองและไขสันหลัง ไมอีลินช่วยให้สัญญาณประสาทส่งผ่านได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เมื่อไมอีลินถูกทำลาย การส่งสัญญาณจะช้าลงหรือถูกขัดขวาง ซึ่งนำไปสู่อาการหลากหลายที่ผู้ป่วย MS ต้องเผชิญ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของ MS

แม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของ MS แต่มีปัจจัยหลายประการที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคนี้ รวมถึง:

  • พันธุกรรม: ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็น MS มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมากขึ้น
  • ภูมิคุ้มกัน: ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดการโจมตีไมอีลินอย่างผิดพลาด
  • สิ่งแวดล้อม: การสัมผัสกับไวรัสบางชนิด เช่น Epstein-Barr virus (EBV) อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด MS
  • เพศ: ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิด MS มากกว่าผู้ชาย

อาการของโรค MS

อาการของ MS มีความหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเส้นประสาทที่ถูกทำลาย อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • อาการชาหรืออ่อนแรงในแขนหรือขา: มักเกิดขึ้นที่หนึ่งข้างของร่างกายหรือทั้งสองข้าง
  • ปัญหาในการมองเห็น: เช่น เห็นภาพซ้อนหรือมองไม่เห็นในบางส่วน
  • อาการเวียนศีรษะ: รู้สึกเวียนหัวหรือขาดความสมดุล
  • การพูดลำบาก: พูดไม่ชัดหรือพูดช้า
  • ความเหนื่อยล้า: รู้สึกเหนื่อยง่ายแม้ว่าจะไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก
  • ปัญหาในการควบคุมการขับถ่าย: มีปัญหากับการควบคุมปัสสาวะหรืออุจจาระ
อาการของ MS มักเกิดขึ้นและหายไปเป็นช่วงๆ โดยอาการสามารถแย่ลงอย่างรวดเร็วในบางช่วงเวลา เรียกว่าการ "กำเริบ" หรือ "Relapse" และอาจกลับมาดีขึ้นได้บางส่วนหรือทั้งหมดในช่วงเวลาที่เรียกว่า "Remission"


การวินิจฉัยโรค MS

การวินิจฉัยโรค MS ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากอาการอาจคล้ายกับโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบประสาท การวินิจฉัยที่แม่นยำจำเป็นต้องใช้การทดสอบหลายประเภท ได้แก่:

  1. MRI (Magnetic Resonance Imaging): เป็นการตรวจที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อสร้างภาพของสมองและไขสันหลัง ช่วยในการตรวจหาบริเวณที่มีการอักเสบหรือมีรอยแผลจากการโจมตีของระบบภูมิคุ้มกัน
  2. การตรวจน้ำไขสันหลัง (Lumbar Puncture): การวิเคราะห์น้ำไขสันหลังเพื่อตรวจหาสารโปรตีนและเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ
  3. การตรวจการตอบสนองทางสายตา (Visual Evoked Potentials - VEP): เพื่อวัดการตอบสนองของสายตาต่อการกระตุ้นด้วยแสง
  4. การตรวจประสาทไฟฟ้า (Nerve Conduction Studies): เพื่อวัดการส่งสัญญาณของเส้นประสาทในร่างกาย
วิธีการรักษาและการจัดการโรค MS


แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีการรักษาโรค MS ให้หายขาดได้ แต่การรักษามีเป้าหมายเพื่อชะลอการเกิดของอาการ และลดผลกระทบที่มีต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การรักษาแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่:

  1. การใช้ยา: ยาหลายประเภทถูกใช้เพื่อควบคุมโรค MS รวมถึงยาต้านอักเสบ ยากดภูมิคุ้มกัน และยาที่ช่วยในการควบคุมอาการ
  2. การฟื้นฟูสภาพ: การทำกายภาพบำบัดและการฝึกสมองเพื่อรักษาการเคลื่อนไหวและความจำ
  3. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต: การปรับอาหาร การออกกำลังกาย การลดความเครียด และการสนับสนุนทางจิตใจ ล้วนมีความสำคัญในการจัดการโรค MS

บทสรุป:

โรคเส้นประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) เป็นโรคที่ซับซ้อนและต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่มี MS ควรได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อให้สามารถจัดการกับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรู้เท่าทันและการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความหวังในการใช้ชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น

 

MRC ศูนย์ดูแลสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุครบวงจร
โทรปรึกษาเบื้องต้น นัดหมายจองคิวรับบริการ หรือเข้าชมห้องพัก
064-259 0302 , 097-214 3175
Line @mrccenter
18, 74/56 ซอยนวมินทร์ 85 ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ

Google map : https://maps.app.goo.gl/3ZhTe4NrNeRosrwy6

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้