รู้ทันโรคหลอดเลือดสมอง ลดความเสี่ยงให้ชีวิตคุณและคนที่คุณรัก

Last updated: 27 พ.ย. 2567  |  151 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รู้ทันโรคหลอดเลือดสมอง

       

โรคหลอดเลือดสมอง

หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ "สโตรก" (Stroke) เป็นหนึ่งในโรคที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนทั่วโลกอย่างรุนแรง และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ รวมถึงยังเป็นสาเหตุสำคัญของการพิการถาวร แม้ว่าโรคหลอดเลือดสมองจะมีความร้ายแรง แต่หากเรารู้เท่าทันอาการเตือน ปัจจัยเสี่ยง และการป้องกัน ก็สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักโรคหลอดเลือดสมองอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถดูแลตนเองและคนที่คุณรักให้ปลอดภัยจากโรคนี้ได้มากขึ้น

โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร?

โรคหลอดเลือดสมองเกิดจากปัญหาของการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง เมื่อเลือดที่นำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงสมองถูกขัดขวางหรือหยุดไหล ส่งผลให้สมองบางส่วนขาดออกซิเจนและเกิดความเสียหายอย่างรวดเร็ว ถ้าการไหลเวียนของเลือดไม่กลับมาเป็นปกติภายในเวลาสั้นๆ เซลล์สมองจะเริ่มตาย และทำให้เกิดความบกพร่องในระบบการทำงานของร่างกาย เช่น การเคลื่อนไหว การพูด หรือการรับรู้

โรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่:

  1. โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke) เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดสมองที่นำเลือดไปยังสมอง อาจเกิดจากลิ่มเลือดที่ก่อตัวในหลอดเลือด หรือการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไหลไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ
  2. โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) เกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อสมองโดยตรง ส่งผลให้เกิดแรงดันในสมองสูงขึ้น ซึ่งทำให้สมองเกิดความเสียหายมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีภาวะที่เรียกว่า TIA (Transient Ischemic Attack) หรือที่เรียกกันว่า "มินิสโตรก" ซึ่งเกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมองชั่วคราว อาการมักหายไปภายในเวลาไม่กี่นาทีถึงชั่วโมง แต่เป็นสัญญาณเตือนสำคัญของการเกิดสโตรกที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคต

อาการเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

การรู้จักอาการเตือนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณรับมือกับโรคหลอดเลือดสมองได้ทันท่วงที หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินและรับการรักษาอย่างเร่งด่วน

  1. ปวดหัวอย่างรุนแรง: อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและไม่เคยเป็นมาก่อน มักเป็นอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมองแตก ควรรีบไปพบแพทย์หากปวดหัวจนรบกวนการทำกิจกรรมปกติ
  2. ปากเบี้ยวหรือมุมปากตก: กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง โดยเฉพาะเมื่อยิ้มแล้วมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตกลง
  3. แขนขาอ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่ง: ไม่สามารถยกแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งได้ตามปกติ เป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
  4. พูดไม่ชัดหรือสับสน: การพูดไม่ชัด พูดติดขัด หรือสับสน อาจรวมถึงการไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดได้
  5. ปัญหาการมองเห็น: การมองเห็นไม่ชัด เห็นภาพซ้อน หรือสูญเสียการมองเห็นในบางด้านของดวงตา
  6. การเสียสมดุลหรือเวียนศีรษะ: อาการเวียนศีรษะจนทำให้เสียสมดุล เดินไม่ตรง หรือทรงตัวลำบาก

การตรวจสอบอาการเบื้องต้นด้วยหลัก FAST FAST

เป็นหลักการง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณตรวจสอบอาการเบื้องต้นของโรคหลอดเลือดสมองได้:

F (Face): ใบหน้าเบี้ยว ลองขอให้ผู้ป่วยยิ้ม หากมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตก อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

A (Arms): แขนอ่อนแรง ขอให้ผู้ป่วยยกแขนทั้งสองข้าง หากแขนข้างใดข้างหนึ่งตกลงทันที อาจเป็นอาการเตือน

S (Speech): พูดไม่ชัด ลองให้ผู้ป่วยพูดประโยคง่ายๆ หากพูดไม่ชัดหรือสับสน อาจบ่งบอกถึงปัญหา

T (Time): เวลาเป็นสิ่งสำคัญ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้และปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้:

ปัจจัยเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง

  • ความดันโลหิตสูง
  • เบาหวาน
  • ไขมันในเลือดสูง
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • ภาวะอ้วนและขาดการออกกำลังกาย

 

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพ:

  1. ควบคุมความดันโลหิต: ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ การควบคุมความดันโลหิตให้ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
  2. ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล: หลีกเลี่ยงอาหารทอด ของหวาน และอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อช่วยลดไขมันในเลือด
  3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: การดูแลระดับน้ำตาลให้คงที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยลดไขมันในเลือดและความดันโลหิต รวมถึงเสริมสร้างระบบการไหลเวียนเลือด
  5. เลิกสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดเสียหาย
  6. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: การมีน้ำหนักตัวเกินทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น
  7. ลดความเครียด: การผ่อนคลายและการจัดการกับความเครียดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพสมอง

"ฟื้นฟูอาการหลอดเลือดสมอง (Stroke) อย่างใส่ใจที่ MRC ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพของเรา ให้การดูแลเฉพาะทางโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คุณหรือคนที่คุณรักกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง มาร่วมฟื้นฟูไปกับเรา ที่ MRC พร้อมอุปกรณ์และโปรแกรมฟื้นฟูที่ครบครัน เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย"

----------------------------------------

ติดต่อMRC ได้ที่
064 259 0302 , 097 214 3175
Line : @mrccenter
Website : https://www.mrc.in.th/premiun-nursing-home
18, 74/56 ซอยนวมินทร์ 85 ถนนนวมินทร์
แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ

       

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้